วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

อากาศเกาหลี

สภาพภูมิอากาศ
ประเทศเกาหลีใต้มีสภาพอากาศอยู่ในเขตอบอุ่น และมีฤดูกาล หรือในภาษาเกาหลีที่เรียกว่า “คเยจอล” ทั้งหมด 4 ฤดู ได้แก่
-    ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม-พฤษภาคม) อุณหภูมิจะอยู่ระหว่าง 6 ถึง 16 องศาเซลเซียส ในช่วงปลายเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายน ต้นไม้จะผลิใบสะพรั่งเต็มต้น ช่วงกลางเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม แสงแดดสดใสตลอดทั้งวัน
-    ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน-สิงหาคม) อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 25 ถึง 35 องศาเซลเซียส ช่วงนี้อากาศร้อน และมีฝนตกบ้าง ต้นไม้เขียวชะอุ่ม ฤดูมรสุมจะเริ่มขึ้นในปลายเดือนมิถุนายน จนถึงช่วงกลางหรือปลายเดือนกรกฎาคม และในเดือนสิงหาคมอากาศจะร้อนจัดและชื้นมาก
-    ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน-พฤศจิกายน) อุณหภูมิจะอยู่ระหว่าง 5 ถึง 15 องศาเซลเซียส ช่วงนี้อากาศจะสดชื่น ท้องฟ้าโปร่ง เป็นสีคราม และในเดือนตุลาคมทั่วประเทศจะมีสีสันสดใสด้วยใบไม้ ที่เปลี่ยนเป็นสีทองและสีแดงเต็มต้น ถือเป็นช่วงที่เหมาะกับการท่องเที่ยวมากที่สุด
-    ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์) อุณหภูมิอยู่ระหว่าง -5  ถึง -20 องศาเซลเซียส จะมีอากาศหนาวเย็นและแห้ง บางครั้งมีฝนหรือหิมะตก และจะมีช่วงวันที่อากาศหนาวจัดสลับกับวันที่อากาศอุ่นสบาย 3 – 4วัน






ขนมเกาหลี

1.สาหร่ายแผ่นอบ (ยี่ห้อ Dong Won - 양반)



กินกันให้ติดเหงือก ติดฟัน ติดหน้าติดกันไปหมดทั้งตัว กับสาหร่ายสุดฮิตที่ใครไม่ซื้อก็แปลก เพราะแทบจะไม่ต้องเดินหาซื้อ ทัวร์ก็เอามาขายกันบนรถเลยจ้า แถมยังบอกอีกว่า สาหร่ายแท้ต้องส่องไฟแล้วเป็นสีเขียวใสไร้รอยต่อ จะแผ่นใหญ่ แผ่นเล็กก็มีคุณค่าทางโภชนาการ ช่วยบำรุงเส้นผม สังเกตได้จากสาวเกาหลี ผมดำสลวยสวยหน้าทุกคนจ้า
  • 2.ป๊อกกี้ 빼빼로 หรือ Pepero (จาก Lotte)

ที่ เกาหลีเรื่องความรักเขาสำคัญนะ! ขนาดมีวัน PEPERO Day กันเลยทีเดียว ซึ่งตรงกับวันที่ 11 เดือน 11 ของทุกๆปี โดยภายในวันนี้ หนุ่มสาวก็จะมอบเปเปโร่ให้แก่กัน เพื่อแสดงความรัก นั่นเอง

ฮิตจริง! ต้องกล่องสีเขียว Almond และไม่ใช่กล่องเล็กอย่างเดียวนะที่ฮิต ต้องกล่องใหญ่เท่านั้น!
ไอตอนซื้อก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก เพราะความโลภมันครอบงำ จนลืมไปว่า เอ…เอากลับบ้านเรายังไงนะ กระเป๋าที่ไม่พอแล้ว!

  • 3.ช็อกโกแลต บราวนี่ (Market'o - Real Brownie )

คอ บราวนี่ไม่ควรพลาด! ฟินกันสุดๆ ไปเลยกับช็อคโกแลตบราวนี่เข้มข้น เหนียวนุ่ม กลมกล่อมกำลังดี ฮิตสุดต้องกล่องชมพูนี้เลย แต่กล่องเหลืองฟ้าก็อร่อยไม่แพ้กันนะ
ตอน เปิดกล่องมาลองกินกันครั้งแรก แอบดีใจ ข้างในมีห่อพลาสติกหลายลายให้เลือก ไอเราก็นึกว่า อุ้ย! มีหลายรสก็ไม่บอก จะชิมให้หมดทุกรสเลย ที่ไหนได้ เป็นแค่ดีไซน์จ้า

  • 4.นมกล้วย (Binggrae - Banana Milk)


กลายเป็นตำนานไปแล้วกับ นมรสกล้วย หอมติดปาก ติดจมูก โดนใจทุกคน รสชาติพอดีๆ ไม่หวานมาก อร่อยติดใจ จนต้องอยากบินกลับไปซื้ออีก! (แต่ตอนนี้มีขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตบ้านเราแล้วนะ บอกเลยว่าแพงมาก)

รู้ก่อนเที่ยว !! สภาพภูมิอากาศ ประเทศ เกาหลี
          ประเทศเกาหลีมี 4 ฤดูกาล ที่แตกต่างกัน โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวเกาหลีได้ตลอดทั้งปี




ฤดูกาลช่วงเวลาอุณหภูมิเฉลี่ย
สภาพอากาศ
ฤดูใบไม้ผลิ
มีนาคม – พฤษภาคม
5 – 20 °C
ใคร ชอบดอกไม้ ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ดอกไม้เริ่มผลิบาน และให้สีสันสดใส และเทศกาลดอกซากุระเกาหลี (Cherry Blossom) จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนเมษายน และจะบานไม่เกิน 2 สัปดาห์ โดยจะเริ่มบานจากทางใต้ของประเทศขึ้นมาทางเหนือ
ฤดูร้อน
มิถุนายน – สิงหาคม
22 – 35 °C
อากาศ ช่วงนี้จะร้อนจัด แต่บางวันอาจจะมีฝนตก และปลายเดือนมิถุนายนจะมีมรสุมจนถึงปลายเดือนกรกฎาคม ส่วนเดือนที่ร้อนที่สุดคือเดือนสิงหาคม
ฤดูใบไม้ร่วง
กรกฎาคม – พฤศจิกายน
5 – 25 °C
ช่วง นี้จะเป็นช่วงที่มีอากาศเย็นสบายที่สุด และนับเป็นฤดูกาลที่สวยงามที่สุดสำหรับการไปเที่ยว เพราะจะได้ชมปรากฏการ์ณทางธรรมชาติของใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งใบเมเปิ้ลที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง ใบแปะก๊วยที่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีนั้นจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมไปจนถึงประมาณกลาง เดือนพฤศจิกายน แล้วแต่สภาพอากาศในแต่ละปี  จุดที่จะชมใบไม้เปลี่ยนสีได้สวยที่สุดอยู่ที่อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน และเกาะนามิ ช่วงนี้บรรยากาศจะโรแมนติกมากที่สุด
ฤดูหนาว
ธันวาคม – กุมภาพันธ์
-5 – 8 °C
ใคร อยากสัมผัสหิมะให้มาช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงที่หิมะตก ถือเป็นเวลาโรแมนติกของหนุ่มสาวที่จะได้เดินกอดกันท่ามกลางหิมะหนาว ใครที่ชอบเล่นสกีจะต้องมาเที่ยวเกาหลี ช่วงที่หิมะตกหนักที่สุดในหน้าหนาว คือช่วงเดือนมกราคม


มาเที่ยวเกาหลีช่วงไหนดี 
เกาหลี นั้นนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวได้ทั้งปี แต่ช่วงที่ตั๋วเครื่องบินและที่พักราคาถูกที่สุด จะเป็นฤดูร้อน เพราะอากาศจะร้อนจัดและมักมีมรสุมเป็นประจำ
ช่วง ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันมาก คือ ฤดูใบไม้ผลิ มาดูดอกซากุระบาน และอากาศเย็นสบาย อีกช่วงที่ฮิตไม่แพ้กันคือ ฤดูใบไม้ร่วง เพราะอากาศเย็นสบายเช่นกัน และยังได้เห็นสีสันของใบไม้ที่เริ่มเปลี่ยนสีก่อนจะร่วงหล่น
ส่วนคนที่ชอบสัมผัสอากาศหนาวเย็น เล่นหิมะ หรือเล่นสกี มักจะนิยมมาเที่ยวเกาหลีในช่วงมกราคม
เครื่องสำอางที่ต้องซื้อเมื่อไปเกาหลี

10 เครื่องสำอางน่าสอย เมื่อไปเยือนเกาหลี ก็มันทั้งดีและราคาน่ารักกว่าบ้านเราตั้งเยอะ แบบนี้จะพลาดไม่ซื้อมาใช้ยังไงไหว !

          ต้องบอกเลยว่าในนาทีนี้ การไปเที่ยวเกาหลีก็ยังเป็นอะไรที่ฟีเว่อร์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แถมบางคนไปมาครั้งแรกไม่พอต้องมีต่อครั้งสองอีก ก็แหม ... ที่ประเทศเกาหลีอะไร ๆ ก็ดี ไม่ว่าจะเป็นอากาศ แหล่งช้อปปิ้ง ยิ่งของกินยิ่งฟินเข้าไปใหญ่ อิอิ ที่สำคัญเครื่องสำอางเกาหลีที่ทั้งถูกและดีนี่แหละเป็นเป้าหมายของสาวไทย ทั้งหลายเลยใช่ไหมล่ะ แต่ ... ถ้าจะไปเกาหลีเพื่อสอยเครื่องสำอาง ก็ต้องห้ามพลาด 10 ตัวที่กระปุกดอทคอมแนะนำวันนี้เด็ดขาดค่ะ เพราะบอกเลยว่าไปเกาหลีแล้วไม่สอยของเหล่านี้มาถือว่าพลาดแรงมาก !

1. 3CE Drawing Lip Pen Kit 

          ชั่วโมง นี้คงไม่มีเครื่องสำอางเกาหลีชิ้นไหนฮอตเกินกว่าตัวนี้ได้แล้วล่ะ ไม่ว่าจะช่องทางไหนที่ซื้อได้ สาว ๆ บ้านเราก็พร้อมลุย เพราะเจ้าลิปแบบดินสอ 12 แท่งในกล่องสีดำสวยมีสไตล์จาก 3CE นี่แหละที่รวมสีสันสวย ๆ ไว้ด้วยกัน แถมเนื้อยังนุ่มทาง่าย แบบนี้ไปเกาหลีทั้งทีจะไม่สอยมาให้เพื่อน ๆ อิจฉาได้ไงล่ะ

เครื่องสำอางที่ต้องซื้อเมื่อไปเกาหลี

2. Laneige Water Sleeping Mask

สลี ปปิ้งมาสก์ตัวดังที่บอกเลยว่า ไปเยือนถึงถิ่นแดนกิมจิแล้วจะไม่สอยไม่ได้ เพราะราคาถูกกว่าบ้านเรามากจริง ๆ (ไม่ถึงพันบาท) แถมยังใช้ดี หน้านุ่มเด้ง และกระปุกก็ใหญ่ใช้ได้นานหลายปีเลยล่ะ 


เครื่องสำอางที่ต้องซื้อเมื่อไปเกาหลี

3. Etude House Drawing Eye Brow

          ดินสอ เขียนคิ้วตัวฮอตตัวฮิต ที่ใครไปเกาหลีก็ต้องลิสต์ฝากให้หิ้วข้ามน้ำข้ามทะเลกลับมาให้ เพราะราคาแท่งละประมาณ 80-90 บาท แต่เขียนคิ้วได้สวยคมกริบ แถมยังมีเฉดสีมากมายให้เลือกใช้ บอกเลยว่าไปแล้วต้องเหมากลับมายกโหลถึงจะฟิน 

เครื่องสำอางที่ต้องซื้อเมื่อไปเกาหลี

4. Sulwhasoo Evenfair Perfecting Cushion

          ถ้าพูดถึงเครื่องสำอางเกาหลีจะพลาดคุชชั่นไปได้ไงล่ะเนอะ เพราะนี่แหละทาแล้วได้ผิวสวยฉ่ำเนียนเด้งแบบสาวแดนกิมจิเลย และตัวที่ดังตัวที่เด็ดจริงก็ต้องเป็นคุชชั่นตลับหรูจาก Sulwhasoo นี่แหละค่ะ เพราะเฉดสีสวยเข้ากับผิวสาวบ้านเรา แถมทาแล้วหน้ายังฉ่ำสุขภาพดีไม่ได้ดูเหมือนหน้ามัน ไหน ๆ ไปเกาหลีแล้วก็จัดมาเลยดีกว่าค่ะ ราคาถูกกว่าบ้านเราอยู่แล้ว

เครื่องสำอางที่ต้องซื้อเมื่อไปเกาหลี

5. Etude House Oh My Eye Line
          เป็น อีกหนึ่งสิ่งที่ใครไปเกาหลีก็ต้องสอยกลับมาใช้ หรือไม่ก็สอยกลับมาฝากเพื่อนฝูงพี่ป้าน้าอา เพราะอายไลเนอร์ตัวนี้ใช้ดีมากจริง ๆ จ้า เขียนง่าย เนื้อเป็นแบบฟิล์มล้างไม่ยาก แถมยังติดทนนานไม่แพนด้า ราคาที่เกาหลีอยู่ที่ราว ๆ 100-110 บาทเท่านั้นเองด้วย

เครื่องสำอางที่ต้องซื้อเมื่อไปเกาหลี

6. Nature Republic Soothing & Moisture Aloe Vera 92& Soothing Gel

          บอกเลยเจ้าเจลว่านหางจระเข้สารพัดประโยชน์ของ Nature Republic เนี่ย เป็นของสามัญประจำบ้านที่ใครไปเกาหลีก็ต้องสอยกลับมาเป็นกุรุส เพราะกระปุกหนึ่งใช้ได้นานมาก แถมยังใช้บำรุงได้หัวจรดเท้าอีกด้วย แถมที่เกาหลียังราคาถูกมาก ๆ อยู่ที่กระปุกละประมาณ 90 กว่าบาทเท่านั้นเองค่ะ

เครื่องสำอางที่ต้องซื้อเมื่อไปเกาหลี

7. Etude House Precious Mineral BB Cream Cotton Fit 

          สุด ยอดบีบีครีมที่ทาแล้วหน้าเด้งเนียนฉ่ำไม่ต้องพึ่งแอพฯ ตัวนี้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในหมู่สาวเกาหลีมาก ๆ ค่ะ แล้วงานนี้สาวไทยที่ไปเที่ยวเกาหลีจะพลาดได้ไงล่ะเนอะ หากมีโอกาสได้ไปช้อปฟิน ๆ ถึงถิ่นแล้วละก็ ตัวนี้ต้องสอยมาใช้ให้ไวเลยค่ะ

เครื่องสำอางที่ต้องซื้อเมื่อไปเกาหลี


8. Innisfree The Green Tea Seed Serum

          เซรั่มตัวดังจาก Innisfree ที่ในช็อปบ้านเรามาทีไรก็ขายหมดตลอด รู้แบบนี้แล้วไปเยือนถึงถิ่นแดนเกาหลี จะไม่ซื้อตัวนี้กลับมาใช้ได้ไงล่ะเนอะ บอกเลยเซรั่มตัวนี้ใช้แล้วหน้าขาวเนียนใสไร้สิวจริง เหมาะสำหรับสาวผิวแพ้ง่าย แถมปริมาณก็ยังเยอะใช้ได้นานเลยล่ะ

เครื่องสำอางที่ต้องซื้อเมื่อไปเกาหลี


9. Banila Co It Radiant CC Cream SPF30 PA++

          ซี ซีครีมหน้าเด้งที่กวาดรางวัลจากแวดวงบิวตี้มากมาย บอกเลยว่าที่แนะนำไม่ใช่ว่ามันถูก แต่เพราะมันดีเว่อร์และยี่ห้อนี้ยังไม่มีขายในไทยนะจ๊ะ ถ้าอยากลองพิสูจน์ความเนียนใสและความเด้งฉ่ำของซีซีครีมตัวนี้ละก็ ไปเกาหลีแล้วต้องสอยมาอย่าได้พลาดเชียว

เครื่องสำอางที่ต้องซื้อเมื่อไปเกาหลี

10. บรรดามาสก์ชีท

          ใครไปเกาหลีแล้วไม่ขนมาสก์ชีทกลับมาใช้ถือว่าผิด ! เพราะเกาหลีนี่แหละเป็นแหล่งรวมของมาสก์ชีทดี ๆ และราคาถูกมากไว้เลย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ไหนก็จะมีมาสก์ชีท แถมยังแผ่นละแค่ประมาณ 30 กว่าบาทเท่านั้น ยิ่งซื้อเป็นแพ็กยิ่งคุ้มหนักเลยจ้า

เครื่องสำอางที่ต้องซื้อเมื่อไปเกาหลี

5 ร้านอาหารเกาหลีอร่อยเด็ดจนต้องร้องว่าซารางเฮ

5 ร้านอาหารเกาหลีอร่อยเด็ดจนต้องร้องว่าซารางเฮ

10 ร้านอาหารเกาหลีอร่อยเด็ดจนต้องร้องว่าซารางเฮ

1. DooRae

ร้าน อาหารเกาหลีใน Korean Town ที่ตกแต่งสไตล์เกาหลีดั้งเดิม มี 2 ชั้นด้วยกัน ส่วนอาหารเน้นรสชาติสไตล์เกาหลีแท้ๆ ตัวชูโรงของร้านเป็นอาหารสไตล์ปิ้งย่าง โดยเฉพาะซี่โครงหมูหมักซอสรสชาติกลมกล่อม เนื้อนุ่ม ไม่มัน และบิบิมบับ (ข้าวยำเกาหลี) ชามใหญ่จัดเต็ม ส่วนซุปกิมจิชิเกก็เข้มข้น อร่อยค่ะ
🏡 ที่ตั้ง : สุขุมวิท 12 สุขุมวิทพลาซ่า Korean Town ชั้น 1 กรุงเทพฯ 
📲 โทรศัพท์  :  02-653-3815, 081-890-5525
🕑 เวลาเปิด-ปิด : 10.00-21.00 น.
💻 ข้อมูลเพิ่มเติม : Doorae (Korean Town)

Doorae (3)


 2. Myeong Ga 

ชู โรงด้วยเมนูปิ้งย่างอีกเช่นกันค่ะ ยิ่งคนรักเนื้อจะต้องเลิฟเพราะไม่ว่าจะเป็นเมนูลิ้นวัว เนื้อวัวหมักบาร์บีคิวก็เด็ดทั้งนั้น ส่วนใครที่ไม่กินเนื้อวัวก็มีเมนูเนื้อหมูและอื่นๆ ให้บริการ แต่ถ้าจะขออยู่ท้องต้องเจอ ต๊อกบกกี (Topokki) ที่มาพร้อมชีสยืดๆ เยิ้มๆ เลยค่ะ
🏡 ที่ตั้ง : สุขุมวิท 12 กรุงเทพมหานคร Korean Town ชั้น 1 กรุงเทพฯ 
📲 โทรศัพท์  : 02-229-4658, 081-630-0532, 02-254-2241 
🕑 เวลาเปิด-ปิด : 11.00 – 22.00 น.

ภาพจาก https://www.wongnai.com/listings/korean-food-in-trend

ภาพจาก https://www.wongnai.com/listings/korean-food-in-trend


3. Youreaguan 

ภัตตาคาร อาหารเกาหลีสูตรชาววัง แดจังกึมมาเองไปอีก สำหรับภัตตาคารยูเรกวานที่ภายในหรูหราน่านั่ง บรรยากาศโดยรอบก็ร่มรื่นต้นไม้เยอะ มีน้ำตกเพิ่มความสดชื่น บรรยากาศเหมาะแก่การมาดื่มด่ำรสชาติอาหาร พักผ่อน สังสรรค์มากๆ ด้านอาหารก็เน้นอาหารเกาหลีรสชาติดั้งเดิม มีทั้งปิ้งย่างแบบบาร์บีคิว กิมจิสด การบริการก็เป็นเลิศ อยากมากินอาหารเกาหลีดั้งเดิมแบบอิ่มอร่อย สบายๆ ต้องที่นี่เลยค่ะ
🏡 ที่ตั้ง : 26 ซอยสุขุมวิท 59 ถ.สุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา
📲 โทรศัพท์  : 02-714-4374-5
🕑 เวลาเปิด-ปิด : 11.00-22.00 น.
💻 ข้อมูลเพิ่มเติม : ร้านอาหารเกาหลียูเรกวาน

ยูเรกวาน (4)


 4. เจินจู 

ร้าน ของคนเกาหลีแท้ๆ ที่เปิดให้คนไทยได้ลองลิ้มชิมรสอาหารแบบเกาหลีที่แท้จริง เมนูเด็ดเป็นหม้อไฟเกาหลีพร้อมเครื่องเคียง น้ำจิ้ม กิมจิเติมไม่อั้น ไก่ตุ๋นโสมก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ซดคล่องคอ รสชาตินุ่มละมุนติดอกติดใจนักชิมมาหลายต่อหลายคนแล้วค่ะ แถมยังมีเครื่องดื่มเกาหลีคอยให้บริการด้วย ดารา  คนดังหลายคนก็มากินร้านนี้นะคะ
🏡 ที่ตั้ง : ลาดพร้าววังหิน 52 กรุงเทพฯ 10230
📲 โทรศัพท์  : 085-900-5253 , 089-987-3379
🕑 เวลาเปิด-ปิด : 17.00-23.00 น.
💻 ข้อมูลเพิ่มเติม : เจินจู เกาหลีหม้อไฟ

เจินจู


5. Jang won

ปิ้ง ย่างเกาหลีนี่มาแรงจริงๆ ค่ะ ร้านจังวอนก็เช่นกัน เด่นสุดๆ เรื่องปิ้งย่างมีทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู หมู 3 ชั้น พร้อมปิ้งกันให้ลืมอ้วนด้วยเตาปิ้งแบบไล่น้ำมัน นอกจากนี้ยังมีราเมนเย็นแบบเกาหลี แพนเค้กเกาหลีก็มี ครบจบในร้านเดียวเลยค่ะ
🏡 ที่ตั้ง : สุขุมวิท 12 สุขุมวิทพลาซ่า Korean Town ชั้น 1 กรุงเทพฯ 
📲 โทรศัพท์  : 02-251-2636
🕑 เวลาเปิด-ปิด : 09.00-23.30 น.
💻 ข้อมูลเพิ่มเติม : JangWon BBQ 장원

จังวอน (3)

จังวอน (4)



การจดทะเบียนสมรสระหว่างคนเกาหลี-คนไทย


การจดทะเบียนสมรสระหว่างคนเกาหลี-คนไทย

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การสมรสหรือแต่งงานของชาวเกาหลีใต้



      ในเมื่อความรักไม่มีพรมแดน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนไทยจะพบรักและแต่งงานกับคนต่างชาติ ต่างศาสนา ^^ แต่เชื่อว่าคงมีหลาย ๆ คู่คิดว่ากว่าจะคบหาดูใจจนถึงขั้นตกลงแต่งงานกันว่ายากแล้ว แต่การจดทะเบียนสมรสกับคนต่างชาติกลับยุ่งยากกว่า อ๊ะ ๆ ไม่จริงเลยค่ะ เพราะหากเตรียมตัวและเตรียมเอกสารให้พร้อมก็เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว ดังนั้น วันนี้เรามีขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสระหว่างคนเกาหลีและคนไทย รวมถึงการขอวีซ่าแต่งงานระหว่างคนไทยและคนเกาหลีมาแนะนำกันค่ะ 


ขั้นตอนการจดทะเบียนสมรส ณ ประเทศไทย

          ขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสระหว่างคนเกาหลีและคนไทยในประเทศไทย มีดังต่อไปนี้

(แผนกกงสุล สถานทูตเกาหลีในประเทศไทย)

          คนเกาหลีที่ต้องการจดทะเบียนสมรสกับคนไทยในประเทศไทย จะต้องยื่นเรื่องขอใบรับรองโสด ณ แผนกกงสุล สถานทูตเกาหลีในประเทศไทยก่อน

          เอกสารที่ใช้ในการขอใบรับรองโสดสำหรับคนเกาหลี

          1. แบบฟอร์มใบรับรองโสดของคนเกาหลี (รับที่สถานทูตหรือดาวน์โหลดได้ทางอินเทอร์เน็ต)

          2. ใบแสดงความสัมพันธ์การสมรสและใบแสดงความสัมพันธ์ในครอบครัวของคนเกาหลี

          3. สำเนาหนังสือเดินทางของทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย

          4. ใบแสดงความโสดของคนไทยฉบับจริงพร้อมสำเนา (ขอรับได้ที่สำนักงานเขตหรืออำเภอ ณ ภูมิลำเนาเดิม)

          5. กรณีมีผู้แนะนำ โปรดเตรียมเอกสารสำเนาของหน้าสำเนาหนังสือเดินทางของผู้แนะนำแนบด้วย และกรณีคนไทยเคยสมรสแล้วหย่า กรุณาเตรียมใบรับรองโสดและใบหย่ามาด้วย

(กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ)

          หลังจากที่ได้รับใบรับรองโสดที่ทางสถานทูตออกให้เป็นภาษาอังกฤษมาแล้ว ให้นำใบรับรองโสดนั้นไปแปลเป็นภาษาไทยและรับรองเอกสารที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ในประเทศไทย

          เอกสารที่ต้องใช้ในการรับรองเอกสาร

          1. ใบรับรองโสด (ฉบับจริงภาษาอังกฤษและฉบับแปลภาษาไทย) และสำเนา

          2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาพาสปอร์ตคนละ 1 ชุด

(สำนักงานเขตหรืออำเภอในประเทศไทย)

          นำใบรับรองโสดฉบับภาษาไทยที่ได้รับการรับรองจากกรมการกงสุลไปจดทะเบียนสมรส ที่สำนักงานเขต หรืออำเภอในประเทศไทยเพื่อขอใบทะเบียนสมรส

          เอกสารที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนสมรส

          1. คนเกาหลี-ใบรับรองโสดที่ได้รับการรับรองแล้วกับสำเนาหนังสือเดินทาง

          2. คนไทย-บัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้าน

(กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ)

          นำใบจดทะเบียนสมรสที่ได้รับจากสำนักงานเขตหรืออำเภอในประเทศไทยไปแปลเป็น ภาษาอังกฤษ และนำไปรับรองเอกสารที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ

          เอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนสมรส

          1. ใบทะเบียนสมรส (ฉบับจริงภาษาไทยและฉบับแปลภาษาอังกฤษ) และสำเนา

          2. สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาหนังสือเดินทางของทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายคนละ 1 ชุด

(แผนกกงสุล สถานทูตเกาหลีในประเทศไทย)

          นำสำเนาใบทะเบียนสมรสที่ได้รับการรับรองจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ มารับรองที่แผนกกงสุล สถานทูตเกาหลีในประเทศไทยอีกครั้ง

          เอกสารที่ต้องใช้ในการรับรองเอกสาร

          1. สำเนาใบทะเบียนสมรสที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงการต่างประเทศและสำเนา

          2. สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาหนังสือเดินทางของทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายคนละ 1 ชุด

(สำนักงานเขตในประเทศเกาหลี)

          นำใบทะเบียนสมรสตัวจริง, สำเนาใบทะเบียนสมรสที่ได้รับการรับรองแล้ว, ใบทะเบียนสมรสฉบับแปลภาษาอังกฤษ, สำเนาพาสปอร์ตของคนไทยไปยื่นแจ้งจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานเขตในประเทศเกาหลี

          - โปรดสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สำนักงานเขตในประเทศเกาหลีที่ต้องการจะไปแจ้งจดทะเบียนสมรส

          - ผู้ที่ต้องการจะยื่นวีซ่าสมรสจะต้องจดทะเบียนสมรสทั้ง 2 ประเทศ ให้เรียบร้อยก่อนถึงจะสามารถยื่นเรื่องขอวีซ่าสมรสในประเทศไทยได้

          สอบถามข้อมูลการรับรองเอกสารที่กรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ เบอร์โทรศัพท์ 0 2575-1058/61

          ***กรณีที่ต้องการยื่นจดทะเบียนในประเทศเกาหลี ผ่านทางสถานทูตเกาหลีในประเทศไทย

          เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นจดทะเบียน

          1. แบบฟอร์มแจ้งจดทะเบียนสมรส

          2. ใบสมรสไทยตัวจริงพร้อมใบที่แปลเป็นภาษาเกาหลีแล้ว

          3. หนังสือเดินทางตัวจริงพร้อมสำเนา

          *ต้องมาจดทะเบียนด้วยตัวเองทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง

          **ใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 1-2 เดือน

          ทั้งนี้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 2247-7540/41 (ต่อ 332)

การจดทะเบียนสมรสระหว่างคนไทยและเกาหลี ณ กรุงโซล

          ชาวไทยสามารถจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายไทยได้ที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงโซล โดยผู้ที่จะจดทะเบียนสมรสต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

          1.1 อายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปสามารถดำเนินการด้วยตนเอง หากอายุต่ำกว่า 20 ปี แต่มากกว่า 17 ปีบริบูรณ์ ต้องนำบิดา/มารดาหรือผู้ปกครองมาให้ความยินยอม หรือต้องมีหนังสือให้ความยินยอมจากบุคคลทั้งสามดังกล่าวข้างต้น แต่ถ้าอายุต่ำกว่า 17 ปี ต้องได้รับอนุญาตจากศาลจึงสมรสได้

          1.2 ไม่เป็นคนวิกลจริต หรือไร้ความสามารถ

          1.3 ไม่เป็นคู่สมรสของบุคคลอื่น

          1.4 ไม่เป็นพี่น้องร่วมพ่อแม่เดียวกัน หรือร่วมแต่พ่อหรือแม่

          1.5 ผู้รับบุตรบุญธรรมจะสมรสกับบุตรบุญธรรมไม่ได้

          1.6 หญิงที่สามีเสียชีวิตหรือการสมรสสิ้นสุดลงด้วยประการอื่น จะจดทะเบียนสมรสใหม่ได้หลังจากที่หย่าแล้วไม่น้อยกว่า 310 วัน นอกจาก

          - คลอดบุตรแล้วในระหว่างนั้น
          - จดทะเบียนสมรสกับบุคคลเดิม
          - มีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าไม่ตั้งครรภ์
          - ศาลมีคำสั่งให้สมรสได้

          ผู้ที่ต้องการจดทะเบียนสมรส คู่สมรสจะต้องมาดำเนินการที่สถานเอกอัครราชทูตฯ เอง (ทั้งฝ่ายชายและหญิง) 2 ครั้ง โดยครั้งแรกคือวันมายื่นเรื่อง ครั้งที่สองคือวันมารับทะเบียนสมรส

          เอกสารประกอบการยื่นขอจดทะเบียน

          1. หนังสือรับรองความเป็นโสด (อายุไม่เกิน 6 เดือน) และสำเนา 1 ใบ

          2. สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ใบ

          3. บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง และสำเนา 1 ใบ

          4. คำร้องขอจดทะเบียนสมรส

          5. ใบสำคัญการหย่า (กรณีเคยจดทะเบียนสมรสและได้จดทะเบียนหย่าแล้ว)
         
หมายเหตุ :

          1. หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนเกาหลี นอกจากบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางแล้ว ต้องยื่นทะเบียนครอบครัว (คาจกควันเกจึงเพียงซอ) และบันทึกฐานะแห่งครอบครัว (โฮอินควันเกจึงเพียงซอ) พร้อมคำแปลเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งผ่านการรับรองจากกระทรวงการต่างประเทศและการค้าเกาหลี

          2. ผู้ที่จดทะเบียนสมรสตามกฎหมายเกาหลีแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายไทยอีก (ทางการไทยยอมรับทะเบียนสมรสที่จดถูกต้องตามกฎหมายเกาหลี) แต่ควรที่จะทำเรื่องขอปรับปรุงรายละเอียดในฐานข้อมูลของเขต/อำเภอ เพื่อให้ทางการทราบว่าตนเองได้แต่งงานแล้ว ทางอำเภอจะบันทึกในเอกสารที่เรียกว่าบันทึกฐานะแห่งครอบครัว
แต่งงาน

การขอวีซ่าแต่งงานระหว่างคนไทยและคนเกาหลี

          ขั้นตอนในการขอวีซ่าและเอกสารที่ต้องใช้ในการขอวีซ่าแต่งงานระหว่างคนไทยและคนเกาหลี มีดังต่อไปนี้

          เอกสารที่ใช้ในการขอวีซ่า

          1. แบบฟอร์มขอวีซ่า (สามารถรับได้ที่สถานทูตหรือดาวน์โหลดได้ทางอินเทอร์เน็ต)

          2. แบบสอบถามข้อมูลการแต่งงานเบื้องต้นเพื่อใช้ในการสัมภาษณ์กับท่านกงสุล (สามารถรับได้ที่สถานทูตหรือดาวน์โหลดได้ทางอินเทอร์เน็ต)

          3. ใบแสดงความสัมพันธ์การสมรสและใบแสดงความสัมพันธ์ในครอบครัว (เอกสารตัวจริงที่ออกภายใน 3 เดือนก่อนยื่นขอวีซ่า)

          4. ใบสำคัญการสมรสที่ได้รับจากที่ว่าการอำเภอไทยและต้องนำไปรับรองสำเนาถูกต้องที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ

          5. รูปถ่ายคนไทย 2 นิ้ว 1 รูป

          6. สำเนาหนังสือเดินทางของทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายคนละ 1 ชุด

          - ในกรณีที่คนไทยมีการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล ต้องเตรียมสำเนาใบเปลี่ยนชื่อที่ได้รับการรับรองจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศมาด้วย

          - ในกรณีที่คนไทยแต่งงานใหม่ต้องเตรียมใบรับรองความโสดและใบหย่ามาด้วย

          7. หนังสือรับรองการทำงานของคนเกาหลีและสำเนาใบจดทะเบียนบริษัท

          8. เอกสารแสดงรายการทรัพย์สินของคนเกาหลี (เช่น สัญญาเช่าบ้านหรือสำเนาทะเบียนบ้าน)

          9. ในกรณีที่มีคนแนะนำให้รู้จักกัน : สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและเบอร์โทรศัพท์ของคนแนะนำ

          - ในกรณีที่คนแนะนำเป็นคนเกาหลี : สำเนาหนังสือเดินทางหรือสำเนาบัตรประชาชน ด้านหน้าและหลัง 1 ชุด

          - ในกรณีที่คนไทยที่แต่งงานกับคนเกาหลีเป็นคนแนะนำ : สำเนาบัตรประจำตัวคนต่างด้าวของคนไทยที่แต่งงานกับคนเกาหลี 1 ชุด

          10. ใบรับรองการเข้ารับการอบรมโปรแกรมการแต่งงานระหว่างประเทศ (สามารถเข้าไปลงชื่อจองล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ www.hikorea.go.kr และเดินทางเข้าไปอบรมตามวันเวลาที่จองไว้ล่วงหน้า

          11. หนังสือเชิญ (สามารถรับแบบฟอร์มได้ที่สถานทูตหรือดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ทางอินเทอร์เน็ต)

          12. หนังสือรับรองบุคคล (สามารถรับแบบฟอร์มได้ที่สถานทูตหรือดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ทางอินเทอร์เน็ต)

          13. แบบสอบถามข้อมูลสินเชื่อของคนเกาหลี (ออกโดยธนาคารแห่งชาติเกาหลี หรือสามารถพิมพ์แบบสอบถามได้ที่ www.credit4u.co.kr)

          14. ใบประวัติอาชญากรรมของทั้งคนไทยและคนเกาหลี

          15. ใบตรวจสุขภาพของทั้งคนไทยและคนเกาหลี (ระบุโรคเอดส์ กามโรค และสุขภาพจิต)

          16. ใบประวัติการขอหนังสือเดินทางของคนไทย (สามารถขอได้ที่แผนกหนังสือเดินทาง กรมการกงสุล)

          ระยะเวลาในการขอวีซ่า

          วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-10.30 น. (หยุดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์)

          ระยะเวลาในการสัมภาษณ์

          วันอังคารและวันพฤหัสบดี เวลา 13.30-15.30 น. (หยุดตามวันหยุดราชการ) และนัดสัมภาษณ์หลังจากวันยื่นเอกสาร 1 อาทิตย์

          ***ตอนยื่นเอกสาร สามีหรือภรรยาสามารถมายื่นเอกสารคนเดียวได้ แต่ในวันสัมภาษณ์นั้นต้องมาสัมภาษณ์ทั้ง 2 คน

          ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0 2247-7540/41 (ต่อเบอร์ 324 สำหรับคนเกาหลี เบอร์ 326 สำหรับคนไทย)

          อย่าง ไรก็ตาม ปัจจุบันมีจำนวนคนไทยที่พำนักอาศัยอยู่ในเกาหลีเป็นจำนวนมาก ทั้งผู้ที่อยู่อย่างถาวรกับครอบครัว และผู้ที่มาประกอบอาชีพเป็นการชั่วคราว หลาย ๆ คนมีความจำเป็นต้องติดต่อกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงโซล และหน่วยงานของคนเกาหลี เพื่อดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ แต่เนื่องจากข้อจำกัดทั้งเรื่องภาษาและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบ ส่งผลให้ประสบปัญหาและใช้เวลาในการดำเนินการต่าง ๆ มาก ดังนั้น สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงจัดทำหนังสือ "อยู่สบาย ๆ ในเกาหลี" ขึ้น เพื่อให้เตรียมความพร้อมก่อนเดินทางมาขอรับบริการต่าง ๆ จากสถานเอกอัครราชทูตฯ นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการดำรงชีวิตและการติดต่อหน่วยงานต่าง ๆ ของเกาหลีอีกด้วย


 

อากาศเกาหลี

สภาพภูมิอากาศ ประเทศเกาหลีใต้มีสภาพอากาศอยู่ในเขตอบอุ่น และมีฤดูกาล หรือในภาษาเกาหลีที่เรียกว่า “คเยจอล” ทั้งหมด 4 ฤดู ได้แก่ -    ฤดูใบไ...